หลักการพิจารณาเลือกซื้อบ้านมือสอง
“บ้านมือสอง” เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ หรือ
เรียกได้ว่า น่าสนใจหรือเรียกได้ว่า น่าสนใจไม่แพ้บ้านใหม่สไตล์หรูหราจากโครงการใหม่ๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อพูดกันถึงเรื่องราคาแล้วย่อมประหยัดงบประมาณกว่าแน่นอน แต่ทั้งนี้ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า
“อะไรคือสิ่งที่คุณต้องพิจารณาก่อนจะซื้อบ้านมือสองสักหลัง”
1. “บ้าน” ไม่ใช่การซื้อก๋วยเตี๋ยวที่เดินออกมาปากซอยก็ซื้อได้ทุกวัน น้อยไปกินไม่อิ่มก็เบิ้ลได้
ดังนั้น คุณต้องถามความต้องการของตัวเองก่อน (ไปจนถึงสมาชิก) ว่า ต้องการบ้านแบบไหน เหลียวมองดูสมาชิกในบ้านว่ามีมากน้อยเพียงใด หากมีสมาชิกมาก บ้านเดี่ยวนับเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าเป็นแค่ครอบครัวเล็กๆ ทาวน์เฮาส์หรือคอนโดมิเนียม ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
2. เรื่องแบบบ้านก็สำคัญไม่น้อย เพราะเป็นเสมือนหน้าตาของครอบครัว เช่น
แบบคลาสสิกทำให้แลดูบุคลิกเป็นคนเรียบๆ เคร่งขรึม และไม่ฉูดฉาด
แบบโมเดิร์น แบบที่แปลกตา สีสันบาดใจ มักเป็นที่นิยมของคู่รักหนุ่มสาวมากกว่า
ทั้งนี้ในเรื่องของรสนิยมคงต้องถามหาความเห็นของสมาชิกที่จะอยู่ร่วมกันก่อน
เพราะเมื่อตกลงปลงใจและเข้าไปอยู่อาศัยแล้วจะได้พูดกันได้เต็มปากว่า “บ้านคือวิมานของเรา”
หลังจากนั้นก็พิจารณากันในหัวข้อที่ 3
3. ทำเลที่ตั้ง ไม่จำเป็นขนาดว่าต้องมีแม่น้ำอยู่ด้านหลัง มีสวนดอกไม้อยู่ข้างหน้าหรอก เพียงแค่อยู่ในสถานที่ที่เดินทางได้โดยสะดวก ระบบคมนาคมดี อยู่ใกล้สถานศึกษา ที่ทำงาน แหล่งช็อปปิ้งศูนย์การค้า หรือถ้ามีผู้สูงอายุในครอบครัวก็ควรเลือกทำเลที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินจะเป็นการมองการณ์ไกลที่ดีมาก
*** สิ่งแรกที่ห้ามลืมเลยในการหาทำเลของบ้านใหม่ นั่นคือแนวเวนคืนที่ดิน วิธีง่ายๆ คือ ถามคนในละแวกนั้นหรือบรรดาสมาชิกที่จะเป็นเพื่อนบ้านใหม่ของคุณ หรือหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำนักโยธา กทม.หรือสำนักงานเขตก็ได้ ต้องถามให้แน่ใจว่าแนวที่ดินแถวนั้นจะถูกเวนคืนหรือไม่ เพราะบางครั้งเจ้าของเดิมไปสืบข่าวมาก่อนแล้ว จึงหาทางทำกำไรด้วย*** ทั้งนี้การตัดใจขายทิ้งก่อนที่จะมีกฎหมายเวนคืนออกมา ทำให้ต้องขายที่ในราคาถูก เมื่อคุณซื้อไปกรรมนั้นก็จะตกอยู่กับคุณ จำไว้อย่างหนึ่งว่า “บ้านที่ราคาถูกจนคุณใจสั่นและหวั่นไหวได้นั้น อาจจะมีความไหวหวั่นบางอย่างที่แฝงอยู่ในบ้าน”
4. สภาพแวดล้อมรอบๆ บ้าน ซึ่งก็เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัวของคุณเช่นกัน ถ้าไม่อยากเป็นลูกค้าประจำของจิตแพทย์ ขอแนะนำให้พิจารณาสภาพแวดล้อมให้ถ้วนถี่
อย่าลืมว่าบ้านคือที่ที่คุณต้องพักพิงทุกวัน อย่าไปฝืนทนกับเสียงที่ดังหนวกหู กลิ่นเน่าเหม็นที่ไม่น่าสูดดม ดังนั้น ควรสำรวจสภาพแวดล้อมและที่ตั้งรอบๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะแม้บ้านจะราคาถูก ถ้าจะแลกก็ไม่คุ้มกับคุณภาพชีวิตที่แพงของคุณ
5. เช็คสภาพตัวบ้าน ว่าเสื่อมโทรมมากน้อยแค่ไหน มีน้ำรั่ว ไฟรั่ว ตรงจุดไหนบ้าง เพื่อความปลอดภัย หากบ้านอายุเกิน 10 ปีไปแล้ว ควรต้องมีการตรวจเช็คสภาพ ปรับปรุงกันให้ดีก่อนเข้าอยู่ จะดีกว่า